กรุงศรีเพลินจิตทาวเวอร์ ฮวงจุ้ยเพชรเม็ดงามแห่งย่านเพลินจิต
 

My Great Web page

          สี่แยกเพลินจิตถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสี่แยกสำคัญของกรุงเทพมหานคร เพราะเป็นแยกที่ถนนสายสำคัญสองสายได้แก่ถนนพระรามหนึ่งและถนนวิทยุมาบรรจบกัน มากไปกว่านั้นยังมีรถไฟฟ้า BTS ซึ่งถือว่าเป็นรถไฟฟ้าสายหลักของกรุงเทพมหานครวิ่งผ่านด้วย สำหรับซินแสฮวงจุ้ยแล้ว ทำเลนี้ต้องถือได้ว่าเป็น “สุดยอดชัยภูมิ” ดังนั้นตั้งแต่ผมได้เข้ามาดูฮวงจุ้ยโครงการ “กรุงศรีเพลินจิตทาวเวอร์” ตั้งแต่เริ่มต้น จึงไม่ลังเลที่จะให้คำแนะนำแก่ทางทีมผู้บริหารว่าทำเลนี้เป็นเหมือน “เพชรเม็ดงามที่รอการเจียระไน” ให้ออกมาเป็นอาคารที่มีฮวงจุ้ย “ดีเยี่ยม” อีกหนึ่งอาคารของประเทศไทย
 

อาคารเดิมของธนาคารกรุงศรีฯ สำนักเพลินจิต แม้ว่าจะเคยมีฮวงจุ้ยที่ดี
แต่เมื่อทำเลของแยกเพลินจิตเปลี่ยนไป โดยมีอาคารสูงหลายอาคารมาโอบล้อม ก็ทำให้ลดความเป็นมงคลลงไป


 

          เมื่อดูลักษณะของอาคารกรุงศรีเพลินจิตเดิม แม้ว่าจะถือว่ามีฮวงจุ้ยที่ดีระดับหนึ่งอยู่แล้ว เพราะเป็นสาขาที่มีประวัติศาสตร์ต่อเนื่องยาวนานหลายสิบปี เคยเป็นสำนักงานใหญ่ที่ช่วยสร้างความมั่งคั่งให้ธนาคารกรุงศรีฯ เติบโตมาเป็นธนาคารชั้นนำระดับประเทศ และเป็นที่นั่งบริหารจัดการของทั้งเจ้าของและผู้บริหารในระดับสูงในสมัยก่อนหลายท่าน แต่เนื่องจากเกิดการเปลี่ยนแปลงในสี่แยกเพลินจิตสองอย่าสำคัญได้แก่ การมีรถไฟฟ้า BTS พาดผ่านด้านหน้าที่ดิน และ การมีอาคารสูงใหญ่อย่าง Central Embassy และ Park Venture Tower ขึ้นมาประกบทั้งด้านหน้าและด้านข้างของอาคาร ทำให้อาคารกรุงศรีเพลินจิตเดิม ซึ่งมีความสูงแค่ 5-6 ชั้นนั้น ถือว่า “โดนข่ม” จากอาคารตรงข้ามเป็นอย่างมาก เมื่อผู้บริหารต้องการ “ความมั่นใจ” ว่าการลงทุนทำอาคารนี้ดีหรือไม่ตามศาสตร์ฮวงจุ้ย ผมบอกได้แค่ว่านี่ถือเป็นอีกโครงการที่ผมบอกว่า “ต้องทำ”
 

อาคารแห่งใหม่ “กรุงศรีเพลินจิตทาวเวอร์” สูงใหญ่ โดดเด่น ทันสมัย มีความสง่างาม
รับกับย่านที่มีฮวงจุ้ยที่ดีอย่างแยกเพลินจิตได้เป็นอย่างดี


 

     แยกเพลินจิตนั้นถือได้ว่ามีความโดดเด่นทั้งในเรื่องของชัยภูมิและองศาทิศทาง ตามศาสตร์ชัยภูมินั้นถือว่าทั้งถนนพระรามหนึ่ง ถนนวิทยุ และ รถไฟฟ้า BTS ถือเป็น “สามมังกร” ช่วยส่งพลังมาสะสมที่แยกเพลินจิต ในขณะเดียวกันองศาทิศทางของถนนที่ตัดไว้ ก็เป็นองศาที่ดีทั้งอาคารที่หันทั้ง 4 ทิศ ไม่ว่าจะเป็น เหนือ ใต้ ออก หรือ ตก ดังนั้นการออกแบบอาคารให้ “รับพลังดี” ให้มากที่สุดจึงเป็นสิ่งสำคัญ “ลานโล่งด้านหน้าอาคาร” หรือ “เหม่งตึ๊ง” จึงเป็นจุดสำคัญที่ผมได้กำชับให้เหลือไว้ให้เยอะ แม้ว่าที่ดินจะถูกตีมูลค่าสูงเท่าไร อาคารที่ดีก็ต้องยอมถอยร่นจากถนนให้มีลานโล่งสะสมพลังจะยิ่งเจริญรุ่งเรือง มากไปกว่านั้นลานโล่งด้านหน้ายังมีการสร้าง “บ่อน้ำพุ” ขนาดใหญ่ช่วยกระตุ้นพลังดีเสริมทิศทางหน้าอาคารอีกด้วย ทางเข้าหลักทั้งของที่ดินและอาคารก็ถูกวางฮวงจุ้ยให้มี “Tower Sign” หรือป้ายของโครงการขนาดใหญ่ช่วยเก็บพลังดีนี้ไว้ เช่นเดียวกับประตูหลักของอาคารได้ถูกวางไว้ทั้งสองทาง ทั้งทางด้านทิศเหนือให้รับกับถนนพระรามหนึ่งและทางด้านทิศตะวันออกให้รับกับถนนวิทยุ

 

ลานโล่งขนาดใหญ่ด้านหน้าอาคาร บ่อน้ำพุเสริมพลัง ป้ายของโครงการ
ไปจนถึงความโอ่โถงของปากประตูทางเข้าอาคาร ล้วนแล้วแต่ได้รับการวางตามหลักฮวงจุ้ย



 

     การออกแบบของอาคารนั้นให้เน้นความเป็น “ธาตุทอง” ให้เสริมกับธุรกิจการเงินการธนาคาร และเสริมความทันสมัยความเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยี ภาพลักษณ์ของความเป็นคนรุ่นใหม่ ทางสถาปนิกจึงได้เลือกรูปทรงโค้ง กลม มันวาว สีสันออก ขาว เงิน ทอง มาเป็นจุดเด่นของอาคาร แทรกเข้าไปในหลายๆจุดของงานออกแบบ เช่นการใช้เส้นสายหลักของทรงอาคารให้มีความโค้งโฉบเฉี่ยว การเลือกเอาสัญลักษณ์ “เสาทองคู่” ของอาคารเดิมมาเก็บไว้ที่ประตูทางเข้าหลักของอาคาร จึงถือได้ว่าเป็นจุดหลักในการเสริมฮวงจุ้ยของอาคาร และแน่นอนว่าไฮไลท์ของการออกแบบอาคารนี้อยู่ที่การนำเอาโลโก้ของธนาคารกรุงศรีฯ ที่เป็นสีทองอร่ามตัดกับสีฟ้าของท้องฟ้าอย่างโดดเด่นขึ้นมาไว้บนยอดอาคาร ซึ่งเปรียบเสมือนกับเป็นจุดศูนย์รวมพลังของอาคารให้ยิ่งมีฮวงจุ้ยที่เป็นมงคลมากขึ้นไปอีก !!
 

การออกแบบโดยใช้ “ธาตุทอง” ถือเป็นจุดเด่นของอาคาร ที่ทางสถาปนิกออกแบบออกมา
สอดคล้องกับความต้องการของซินแสเป็นอย่างมาก




     ปัจจุบัน “กรุงศรีเพลินจิตทาวเวอร์” ได้เริ่มเปิดใช้งานแล้ว ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คในย่านใจกลางเมืองของกรุงเทพมหานคร นอกจากอาคารจะดูทันสมัย โดดเด่น สวยงาม แล้วแน่นอนว่ามีฮวงจุ้ยที่ดีมากด้วย และจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยเกื้อหนุนกับความยอดเยี่ยมของทีมงานผู้บริหารและพนักงานของธนาคารกรุงศรีฯ ในการสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้มากขึ้นต่อไป
 



หน้าแรกฮวงจุ้ย....