เมื่อไรถึงควรปรับปรุงฮวงจุ้ยดี


          หลายๆท่านคงเคยมีคำถามว่าเมื่อไรที่เราควรจะปรับฮวงจุ้ยของบ้าน สำนักงาน หรือโรงงาน ใช่หรือไม่ครับ ไม่ว่าจะเป็นท่านที่ได้เคยจัดปรับฮวงจุ้ยไปแล้วหรือท่านที่ยังไม่เคยจัดฮวงจุ้ยมาก่อนเลยก็ตาม ท่านก็คงเคยตั้งข้อสงสัยในเรื่องนี้ เพราะท่านก็คงเคยได้รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ เพื่อนฝูง ที่ประสบความสำเร็จที่ได้ทำการจัด ปรับฮวงจุ้ยมาก่อนเช่นเดียวกัน เพียงแต่ว่ายังไม่แน่ใจว่าเวลาไหนถึงจะเหมาะสมสำหรับการเริ่มปรับปรุงฮวงจุ้ยดี สำหรับในมุมมองของซินแสนั้นเงื่อนไขของการจัดปรับฮวงจุ้ยนั้นสามารถประเมินได้ใน 3 เหตุการณ์ดังต่อไปนี้

          1. เมื่อท่านได้เข้าไปอยู่ในสถานที่แห่งใหม่ โดยรวมทั้งการที่ซื้อบ้าน ที่ดิน หรือ อาคาร แห่งใหม่ หรือแม้กระทั่งเป็นสถานที่เก่าที่สร้างอยู่แล้วแต่ท่านเข้าไปอยู่ใหม่ เช่นหากท่านไปซื้อบ้านหรืออาคารสำนักงานมือสองเพื่อจะเข้าไปยู่อาศัยหรือทำกิจการ ก็แนะนำให้ท่านทำการจัดปรับฮวงจุ้ยเช่นเดียวกันครับ นั่นก็เป็นเพราะเรามองว่า “บ้านหรืออาคาร” นั้นมีสภาพเป็น “หยิน” นั่นก็คือเป็นสิ่งที่ไม่มีชีวิต โดยตัวเองไม่ได้มีพลังตามธรรมชาติ ลักษณะค่อนข้างไปทางสงบนิ่ง หนักแน่น ไม่เคลื่อนไหว ยิ่งหากเป็นบ้าน ที่ดิน หรือ อาคาร ที่ปิดร้างมามากกว่า 2 เดือนขึ้นไป นั่นยิ่งถือว่ามีสภาพความเป็นหยินยิ่งสูง


ทุกครั้งที่เราได้เข้าไปอยู่อาศัยในสถานที่ใหม่ เราก็ควรจะได้รับการปรับจัดฮวงจุ้ยด้วยเช่นเดียวกัน


 

          โดย “บุคคล” นั้นซินแสมองว่าเป็น “หยาง” นั่นก็เพราะเป็นสิ่งมีชีวิต ตัวเองมีพลังงานตามธรรมชาติ เคลื่อนไหว
กระฉับกระเฉง มีอารมณ์ มีความรู้สึก เมื่อใดที่ “หยาง” จากคนไปสัมผัสกับพลัง “หยิน” จากบ้าน นั่นก็เหมือนกับขั้วแม่เหล็กสองขั้วสปาร์คกันทำให้ก่อเกิดสิ่งใหม่ๆขึ้นมา หาก “บ้าน” นั้นมีพลังที่สอดคล้องกับ “บุคคล” ก็จะทำให้เสริมพลังของคนได้ หากได้ทิศทางที่เหมาะสมทั้งทิศทางที่ปรับดวงชะตา หรือทิศทางที่เป็นทิศดีประจำยุคที่ 8 (สำหรับฮวงจุ้ยในระบบดาวเหินหรือ Xuan Kong Flying Star อยู่ระหว่างปี พศ. 2547-2567) ก็ยิ่งจะทำให้คนนั้นเจริญรุ่งเรืองมากขึ้นไปอีก

          ดังนั้น “เคล็ดลับ” ของการจัดฮวงจุ้ยโดยเฉพาะซินแสที่มีความเข้าใจใน “กลไกของพลังงาน” ก็คือการดึงพลังงานธรรมชาติจากภายนอกบ้านหรืออาคารมาเสริมบ้าน จุดที่ต้องการ “พลังหยาง” เช่น ทิศเรื่องโชคลาภ โอกาสทางธุรกิจ ความเจริญก้าวหน้า การแข่งขัน ก็เสริมด้วยสิ่งของหรือชัยภูมิที่เป็นหยาง เช่น ถนน ช่องลม น้ำตก น้ำล้น หินกลิ้ง เครื่องปรับอากาศ ไฟ เป็นต้น หรือ จุดที่ต้องการ “พลังหยิน” เช่น ทิศเรื่องบารมี สุขภาพ ความสัมพันธ์ ก็เสริมด้วยสิ่งของหรือชัยภูมิที่เป็นหยิน เช่น เนินดิน โต๊ะสนาม ศาลา สวนหิน เฟอร์นิเจอร์หนักใหญ่

          2. หากสภาพของสถานที่นั้นๆไม่สวยงาม เสื่อมโทรม นั่นแสดงว่าสถานที่นั้นได้ผ่านการใช้งานมานานในระดับหนึ่งแล้ว โดยรวมถึงสถานที่ที่ท่านได้เคยปรับแต่งฮวงจุ้ยแล้วหรือแม้แต่สถานที่ที่ยังไม่เคยปรับแต่งฮวงจุ้ยก็ตาม นั่นก็เพราะเมื่อท่านได้ใช้งานฮวงจุ้ยในสถานที่นั้นไปสักพักหนึ่งจะมีปัจจัยอยู่สองอย่างที่ทำให้ความเป็นมงคลน้อยลง อย่างแรกคือเรื่องของคุณภาพของพลังปราณ นั่นคือเมื่อชัยภูมิสิ่งแวดล้อมของตัวอาคารเริ่มเสื่อมโทรม ก็อาจทำให้เกิดผลเสียในทางฮวงจุ้ยตามมาเช่น เฉลียงหน้าประตูบ้านร้าว ก็ทำให้สะสมพลังของโชคลาภไม่อยู่ ลาดจอดรถแตกร้าวหากอ่านว่าอยู่ในมุมที่เกี่ยวพันกับเรื่องใดเรื่องนั้นก็จะเสียหาย หรือมุมบ้านที่มีความเสียหายไม่สวยงามก็สามารถอ่านได้ว่าจะส่งผลกระทบกับบุคคลหรือสมาชิก คนใดภายในบ้านของท่าน

 


บ้านที่ไม่สวยงามในบางมุม ก็อาจส่งผลกับสมาชิกในครอบครัวได้เช่นเดียวกัน

 

          อย่างที่สองคือเรื่องของการรับพลังที่ดีประจำยุค เพราะในศาสตร์ฮวงจุ้ยซินแสมีความเชื่อว่าไม่มีทิศทางใดที่ดีอยู่ตลอดเวลา ในทางกลับกันก็ไม่มีทิศทางใดที่เสื่อมอยู่ตลอดเวลา เราจึงสามารถเห็นจากกรณีศึกษาจริงได้ว่า ในหลายๆทำเลค้าขายก็จะมีทั้งดีและร้ายสลับกันไปอยู่เสมอ นั่นก็เป็นเพราะ ทิศทางที่ดีและเป็นมงคลต่อธุรกิจแต่ละประเภทนั้นจะมาในทิศทางที่ต่างกัน ซึ่งการเปลี่ยนยุคตามศาสตร์ฮวงจุ้ยในครั้งล่าสุดนั้นอยู่ที่ปี พศ.2547 ซึ่งก็คงมีหลายสถานที่ที่ได้ทำการใช้สอยพื้นที่มาก่อนหน้านั้นแล้วยังไม่ได้ทำการประเมินคุณภาพของฮวงจุ้ยมาอีกเลย จึงสามารถเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่จะช่วยบอกได้ว่าเหตุใดกิจการของเราถึงได้มีการเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านที่ดีและไม่ดีหลังจากช่วงปีนั้นๆ เช่น ในบางกิจการหันหน้าในทิศนั้นๆก็อาจเป็นทิศดีในยุคก่อนปี พศ.2547 แต่ก็อาจจะกลายเป็นทิศไม่ดีในยุคหลังปี พศ.2547 (ยุคที่ 8 ของการจัดฮวงจุ้ยในระบบดาวเหิน Xuan Kong Flying Star) ก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราพบว่ากิจการของเราไม่ดีเหมือนในช่วงก่อน

          3. หากสถานที่นั้นๆต้องมีการเปลี่ยนรูปทรง รูปร่าง ของตัวเอง หรือ เปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมภายนอก โดยรวมไปถึงสิ่งปลูกสร้างเดิมที่ต้องการปรับปรุง เช่น การต่อเติมห้องครัว หรือห้องนอน ของบ้านพักอาศัย การต่อเติมขยายส่วนผลิตหรือส่วนสำนักงานของโรงงาน การกั้นห้องเป็นสัดส่วนใหม่ของพื้นที่ในสำนักงานหรือ หากมอกในมุมมองของการเตรียมก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินเปล่าก็เช่นเดียวกันครับ เพราะเมื่อสถานที่นั้นต้องมีการเปลี่ยนแปลงรูปทรงรูปร่าง ก็จะทำให้การลักษณะของการสะสมพลังนั้นเปลี่ยนแปลงไป ยิ่งมีการเปลี่ยนแปลงมากๆ เช่นทำการต่อเติมเกินพื้นที่ 1 ใน 3 ของอาคาร หรือ การเปลี่ยนแปลงห้องครัว ซึ่งเป็นห้องที่สะสมพลังงานของธาตุไฟมากที่สุดของอาคาร หรือมีการเปลี่ยนแปลงห้องหรือตำแหน่งนั่งของเจ้าของหรือผู้บริหารสูงสุดของสำนักงานหรือโรงงานเหล่านี้ ตามศาสตร์ฮวงจุ้ยถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงของฮวงจุ้ย การปรับฮวงจุ้ยเพื่อให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของอาคารจึงถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ


หากมีการต่อเติม ซ่อมแซม ใหญ่ๆภายในบ้าน ก็อาจจะทำให้ “ฮวงจุ้ยเปลี่ยน” ได้เช่นเดียวกัน
 

            อย่างไรก็ตามหลายๆท่านก็อาจจะละเลยในกรณีที่สิ่งแวดล้อมภายนอกเปลี่ยนเพราะเข้าใจว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมหรือชัยภูมิภายนอกนั้นไม่มีผลกับฮวงจุ้ยบ้านของเรา แต่ความเข้าใจนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แท้จริงแล้วหากการเปลี่ยนแปลงภายนอกนั้นมีเยอะในระดับหนึ่ง การเปลี่ยนแปลงในครั้งนั้นอาจมีผลกระทบกับคุณภาพฮวงจุ้ยมากกว่าการเปลี่ยนแปลงภายในด้วยซ้ำ ผมขอยกตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงชัยภูมิภายนอกที่กระทบกับสิ่งปลูกสร้างของเราแน่ๆ เช่น การตัดถนนสายใหม่ที่เป็นสายใหญ่ การสร้างสนามบินแห่งใหม่ การสร้างแนวรถไฟฟ้าไม่ว่าบนดินหรือใต้ดิน การสร้างสะพานข้ามแยกของรถยนต์หรือสะพานลอยคนข้าม หากท่านสามารถสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ (ง่ายๆก็คือมองเห็นได้จากตัวบ้านหรือสิ่งปลูกสร้าง) ท่านก็สามารถรับคำแนะนำในการปรับฮวงจุ้ยบ้านจากซินแสที่มีประสบการณ์ได้เช่นเดียวกันครับ

 



หากมีสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ เช่นถนนสายใหญ่ ถนนวงแหวน ผ่านทำเลแถวที่พักอาศัย
สำนักงาน หรือโรงงานของท่าน ก็แน่ใจได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงของฮวงจุ้ยเช่นเดียวกัน


         อย่างไรก็ตามหากท่านยังไม่ได้มีแผนในการปรับปรุงฮวงจุ้ยในช่วงนี้ ก็ขอให้ท่านสังเกตว่าภายใต้การ
เปลี่ยนแปลงหรือสภาพแวดล้อมของที่พักของท่าน หากท่านยังไม่รู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นไม่ได้ส่งผล
เสียกับสมาชิกภายในครอบครัวหรือธุรกิจของท่าน เช่น ความสัมพันธ์ในบ้านไม่ดี ไม่ค่อยได้รับความ
สำเร็จตามที่หวังไว้ หรือ ธุรกิจไม่เจริญก้าวหน้าเท่าที่ควร นั่นก็แปลว่าท่านยังไม่ได้รับผลกระทบจาก
การเปลี่ยนแปลงของสถาพแวดล้อมในครั้งนั้น แต่หากท่านรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของสมาชิก
ในครับครัวหรือธุรกิจ ก็แนะนำให้ท่านรับการประเมินเพื่อปรับปรุงคุณภาพของฮวงจุ้ยครับ


หน้าแรกฮวงจุ้ย....