“ฮวงจุ้ย” ของทำเลบนสี่แยกดีจริงหรือไม่



My Great Web page

ในหลายๆครั้ง เรามักจะได้ยินว่าการเลือกทำเลร้านค้า สำนักงาน หรือ แม้กระทั้งที่พักอาศัยอยู่บริเวณสี่แยกนั้น เป็นลักษณะของฮวงจุ้ยที่ดีนะครับ แต่จากสิ่งที่เราเห็นในชีวิตจริง เรามักจะพบว่าไม่จำเป็นเสมอไปที่ร้านค้า สำนักงาน หรือ แม่กระทั่งบ้านคน ที่ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกนั้นจะต้องดีอยู่เสมอไป หรือแม้กระทั่งทำเลของสี่แยกเดียวกันหากอยู่คนละมุมกันนั้นก็ยังเจริญรุ่งเรืองต่างกันได้เช่นเดียวกัน หลักการเบื้องต้นของการเลือกทำเลบริเวณสี่แยกนั้นมีดังนี้ครับ

1. ให้อยู่เลือกทำเลที่เห็นจุดจ่ายกระแสแต่ไกล เพราะการจัดฮวงจุ้ยนั้นเป็นการจัดเพื่อให้ร้านค้า สำนักงาน หรือ ที่พักอาศัยของเรา สามารถรับกระแสได้มากที่สุด โดยบริเวณสี่แยกนั้นถือเป็นที่บรรจบกันของถนนหลายสาย ทำให้เป็นจุดที่สามารถรวมกระแสพลังงานได้เยอะ อย่างไรก็ตามไม่จำเป็นว่าทุกๆมุมในทุกด้านของสี่แยกจำเป็นต้องได้รับกระแสเยอะเสมอไปนะครับ การเลือกทำเลสี่แยกที่ดีขอให้เราเลือกร้านที่สามารถมองเห็น “กระแส” หรือในที่นี้เราหมายถึง “รถ” นั้นวิ่งมาจากทางไกล เพราะยิ่งไกลก็แปลว่ายิ่งลากกระแสมาได้มากขึ้นเท่านั้น

ในทางกลับกันในบางมุมของสี่แยกนั้น เราจะไม่เห็นกระแสที่วิ่งผ่านเข้ามาเลย จะเห็นแต่กระแสที่ตีจากหายไป ยิ่งเลือกทำเลที่ยืนหน้าร้านแล้วเห็นรถวิ่งตีจากไปมากก็แปลว่ากระแสโดนลากจากไปมากเช่นเดียวกัน ก็จะทำให้ไม่เจริญรุ่งเรือง อย่างไรก็ตามหากแยกนั้นมีกระแสอื่นๆที่มาเยอะไม่แพ้การจราจรของรถ เช่น กระแสจากผู้คนที่เดินผ่านลากกระแสไปมา หรือกระแสจากลมธรรมชาติที่เกิดจากช่องลมของอาคารสูงฝั่งตรงข้าม ก็จำเป็นต้องได้รับการนำมาพิจารณาด้วยเช่นเดียวกันครับ ซึ่งในข้อนี้ท่านจำเป็นต้องได้รับการประเมินจากซินแสที่มีประสบการณ์ครับ

 
ภาพแสดงลักษณะของอาคารที่ได้รับกระแสแบบมาเยอะๆ ไปน้อยๆ บริเวณสี่แยก

2. ให้เลือกทำเลที่ไม่เป็นน้ำตัดขา เพราะในการจัดฮวงจุ้ยนั้นเราคำนึงถึงการกักเก็บกระแสให้ได้ด้วย หากลักษณะของทำเลของเราแม้จะอยู่บริเวณสี่แยก และอยู่ในมุมที่มองเห็นกระแสวิ่งเข้ามาแต่ไกลและเห็นกระแสตีจากน้อยก็จริง แต่ลักษณะของกระแสนั้นอยู่กระชั้นกับประตูทางเข้าของทำเลเรามากเกินไป ก็จะทำให้ไม่สามารถจะดักกระแสได้เยอะเท่าไรนัก หรือให้เราคิดถึงร้านค้าที่ไม่มีที่พอให้จอดรถด้านหน้าได้ ก็แปลว่าไม่มีที่ว่างด้านหน้าไปจนถึงถนนเพียงพอให้รถจอด ก็จะทำให้โอกาสในการขายไม่ดีเช่นเดียวกัน ซึ่งลักษณะดังกล่าวเป็นฮวงจุ้ยทำเลแบบน้ำตัดขา หรือมากไปกว่านั้นหากเราสามารถเลือกทำเลที่การวิ่งของรถนั้นเป็นไปแบบไม่รวดเร็วมากไป ค่อยเคลื่อนตัวได้แบบช้าๆ ก็จะไม่ถือว่าเป็นฮวงจุ้ยแบบน้ำตัดขา

 

ทำเลที่ไม่เป็นน้ำตัดขา คือ รถไม่วิ่งเร็วเกินไป พอมีพื้นที่ด้านหน้าอาคารให้จอดรถ หรือ คนเดินได้สะดวก

3. หลีกเลื่ยงสิ่งกีดขวางหน้าร้านค้า เพราะถึงแม้ว่าเราสามารถเลือกทำเลที่สถาพโดยรวมนั้นรับกระแสได้แล้ว แต่ที่หากหน้าร้านหรือหน้าประตูร้านนั้นไปเจอกับสิ่งก่อสร้างที่กีดขวางไม่ให้กระแสหลากเข้ามาที่ประตูได้ เช่น สะพานลอย เสาไฟฟ้า ตีนสะพานข้ามแยก ต้นไม้ ตู้ไปรษณีย์ฯ จะทำให้มีโอกาสที่เป็นฮวงจุ้ยที่ไม่ดีสูง โดยการประเมินโดยละเอียดหากว่าบ้านหรือร้านค้าของท่านมีสิ่งกีดขวางดังกล่าวนั้น ท่านจำเป็นต้องได้รับการประเมินจากซินแสเช่นเดียวกันครับ

4. ต้องเลือกองศาทิศทางที่ดี ในข้อนี้นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดครับ เพราะถ้าหากว่าท่านสามารถเลือกทำเลที่สามารถรับกระแสได้มากกว่าปกติแล้ว หากบังเอิญว่าทิศทางของอาคารนั้นเลือกทิศทางที่เป็นทิศเสื่อมประจำยุคเข้าไป ทุกๆครั้งที่รถหรือผู้คนเดินผ่านไปมาหน้าบ้านหรือหน้าร้าน ก็จะลากเอากระแสพลังงานที่เป็นพลังงานเสื่อมเข้ามาที่ร้านด้วย พอเราได้ประจุพลังานชนิดที่เสื่อมเข้าไปนานเข้าๆ ก็จะเป็นที่มาของความเสื่อม ตัดสินใจอะไรๆก็ผิดจังหวะ ผิดโอกาสเสมอๆ

ในทางกลับกันหากเราสามารถเลือกองศาทิศทางที่ถูกต้องได้ ทุกๆครั้งที่มีการนำเอากระแสผ่านเข้ามาที่บ้าน สำนักงาน หรือ ร้านค้า ก็จะนำเอากระแสพลังานประจำยุคเข้ามาประจุในตัวเรา ทำให้คิดอ่านอะไรก็ถูกต้องกับจังหวะโอกาสภายนอก ทำอะไรก็จะเป็นที่มาของความโชคดีและเจริญรุ่งเรืองได้ครับ โดยการเลือกทิศทางที่ดีนั้นต้องให้เข้ากับดวงชะตาของสมาชิกภายในบ้าน ธุรกิจที่ทำ รวมไปถึงลักษณะของที่ดินด้วยครับ ซึ่งต้องใช้หลักวิชาฮวงจุ้ยชั้นสูงในการประเมินครับ


หน้าแรกฮวงจุ้ย